ศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย ศุภดิษฐ์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์
ดร.ศิวฤทธิ์ พงศกรรังศิลป์ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์
มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เข้าประชุมร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)
สภาหอการค้าไทย และสมาคมสปาไทย
เพื่อกำหนดแนวทางในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยมีตัวแทนจากสถาบันการศึกษา
อาทิ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต เป็นต้นเข้าร่วมประชุม
โดยคุณกรด โรจนเสถียร
กรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมสปาไทยได้กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมพร้อมทั้งกล่าวถึงความเป็นมาของการจัดประชุมในครั้งนี้
ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงฐานนักวิจัยที่ศึกษาในเรื่องเดียวกันมาหารือเพื่อลดความซ้ำซ้อนในการทำงาน
และเป็นการร่วมกันสร้างความเข้มแข็งทางวิชาการด้านการท่องเที่ยวสุขภาพ ทั้งนี้
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุภาวดี โพธิยะราช รองผู้อำนวยการฝ่าย ฝ่ายทุนมุ่งเป้า
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)
ได้กล่าวถึงแนวทางการทำงานของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)
และการเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนความได้เปรียบทางการแข่งขันด้านการจัดการการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย
โดยศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย ศุภดิษฐ์
รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและยุทธศาสตร์การพัฒนา
มหาวิทยาลัยได้กล่าวถึงทิศทางการพัฒนาการท่องเที่ยวไทยที่เกี่ยวข้องกับการให้ความสำคัญด้านการพัฒนาบุคลากร
การจัดการสิ่งแวดล้อมในแหล่งท่องเที่ยว เป็นต้น ซึ่งในงานนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์
ดร.ศิวฤทธิ์ พงศกรรังศิลป์
ได้นำเสนอผลงานวิจัยที่พุน้ำร้อนเค็มคลองท่อมที่ได้รับรางวัลผลงานวิจัยเด่น สกว.
ประจำปี พ.ศ. 2558 ในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวพุน้ำร้อนเค็มคลองท่อมที่มีการพัฒนาแบบไร้ทิศทางทำให้แหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรม
และหลังจากที่งานวิจัยได้ดำเนินการไปแล้วพบว่าแหล่งท่องเที่ยวได้รับการฟื้นฟูและมีสภาพที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิวฤทธิ์
ได้นำเสนอถึงความเป็นมาของการขับเคลื่อนอำเภอคลองท่อมจังหวัดกระบี่สู่การเป็นสปาทาวน์ว่าเกิดหลังจากการนำเสนอผลงานวิจัยให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาที่ลงมาเยี่ยมชมพุน้ำร้อนเค็มคลองท่อม
โดยแผนงานวิจัยได้ส่งมอบผลงานพร้อมโครงการเพื่อพัฒนาพุน้ำร้อนเค็มจำนวนงบประมาณมากกว่า
30 ล้านบาท
โดยผลจากการวิจัยได้ถูกนำไปใช้ในเชิงนโยบาย ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ได้ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)
และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในการนำเสนอผลงานวิจัยให้กับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจแห่งชาติ
หรือสภาพัฒน์ โดยมีท่านรองเลขาธิการ ณ ขณะนั้น คือ ท่านธานินทร์ ผะเอมเพื่อผลักดันคลองท่อมสู่การเป็นสปาทาวน์กับคณะรัฐมนตรี
จนกระทั่งในเดือนกันยายน พ.ศ. 2559 นายกรัฐมนตรีได้แถลงถึงการสนับสนุนคลองท่อมสู่การเมืองสปา
(Spa Town)
และเป็นที่มาของแผนงานวิจัยการพัฒนาพื้นที่สปาทาวน์ของอำเภอคลองท่อม
จังหวัดกระบี่ที่กำลังดำเนินการในพื้นที่
นอกจากนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิวฤทธิ์
ยังได้นำเสนอถึงแผนการขับเคลื่อนงานวิจัยในพื้นที่อำเภอคลองท่อมสู่การเป็นเมืองสปาในระยะเวลา
3 ปีข้างหน้า
(พ.ศ. 2561 – 2653) ที่มีการศึกษาทั้งในมิติของการจัดการ
การจัดการสิ่งแวดล้อม การจัดการด้านสุขภาพ การสร้างแบรนด์
และการพัฒนาธุรกิจชุมชนที่เกี่ยวข้อง
เพื่อสร้างการเติบโตของพื้นที่อย่างยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้ แผนงานวิจัยการพัฒนาพื้นที่สปาทาวน์ในครั้งนี้
เป็นส่วนหนึ่งของชุดโครงการวิจัยที่นักวิจัยจากศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ได้ดำเนินการในปีพ.ศ.
2560 ที่มีพื้นที่การวิจัยครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
โดยเน้นหนักในพื้นที่ภาคใต้ และมีนักวิจัยจากสถาบันการศึกษามากกว่า 10 สถาบันการศึกษาร่วมเป็นภาคีเครือข่ายการวิจัย
เพราะการดำเนินงานของนักวิจัยภายใต้ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์มีความตระหนักถึงความเป็นหลักในถิ่นของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์และการเป็นสถาบันการศึกษาระดับสูงที่มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศบนพื้นฐานของงานวิจัย
ข่าว ศิวฤทธิ์ พงศกรรังศิลป์
ภาพ ศิวฤทธิ์ พงศกรรังศิลป์ และสำนักประสานงานโครงการวิจัยด้านการท่องเที่ยวและบริการ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)
ภาพ ศิวฤทธิ์ พงศกรรังศิลป์ และสำนักประสานงานโครงการวิจัยด้านการท่องเที่ยวและบริการ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)