เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศอังกฤษในช่วงนี้ บางคนอาจจะสะใจที่เห็นประเทศอังกฤษต้องเผชิญกับเหตุการณ์จราจล เนื่องจากรัฐบาลของประเทศอังกฤษได้เคยประนามประเทศไทยหลังจากเกิดเหตุการณ์เสื้อแดง บางคนอาจจะรู้สึกเศร้าใจเมื่อเห็นแหล่งช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ที่ตนเองเคยเดินช็อปต้องถูกเผามอดไหม้ในกองเพลิง ไม่ต่างกับวัยรุ่นไทยที่เห็นเซ็นทรัลเวิร์ลถูกเผา บ้างก็เรียกว่าวัยรุ่นอังกฤษกำลังลอกเลียนแบบ Thailand Model แต่ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่นักวิเคราะห์หลายรายก็วิเคราะห์ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดมาจากพลังอำนาจของเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network) อย่าง Facebook หรือ bb ที่คนอังกฤษส่งข่าวสารต่าง ๆ เพื่อชวนคนอื่น ๆ ออกมาประท้วง แม้ว่าจะเริ่มอย่างสงบแต่จบลงด้วยน้ำตาอย่างที่เราเห็นกันหน้าจอทีวี บางคนวิเคราะห์ว่าเกิดมาจากนโยบายรัฐบาลที่ประชาชนไม่พอใจจึงต้องออกมาประท้วง ผมอ่านจากข่าว ผู้นำชุมชนหนึ่งในอังกฤษได้ออกมากล่าวว่าคนที่ก่อการจราจลไม่ได้มีแผนการอะไรอยู่ในใจแค่ออกมาเพื่อหยิบฉวยของมีค่าหรือเสื้อผ้าแบรนด์เนมจากห้างดัง ๆ ไปเท่านั้น
คนกลุ่มนี้แหละเป็นกลุ่มที่เรียกว่า Subculture of Consumption หรือ กลุ่มวัฒนธรรมย่อยที่มีอยู่จำนวนมากในประเทศอังกฤษ เราสามารถพบเห็นคนกลุ่มนี้และสามารถแยกแยะได้ง่ายมากจากการแต่งตัว ดูได้จากอะไรหรือครับ ก็ดูจากข่าวที่เราเห็นในเหตุการณ์นี้แหละครับ เสื้อมีฮูท กางเกงวอร์ม และรองเท้ากีฬา คนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ถูกเรียกว่า Chav ที่ย่อมาจาก Council House and Violence ผมแปลง่าย ๆ ว่าพวกที่อยู่บ้านรัฐบาลและชอบบริโภคความรุนแรง ผมเคยอาศัยอยู่ท่ามกลางคนกลุ่มนี้ พวกนี้จะค่อนข้างเหยียดผิวนิด ๆ ผมเจอด้วยตัวเองกับเด็กอายุ 5 ขวบก็เริ่มฝึกฝนการเข้าสู่กระบวนการเป็น Chav อย่างเต็มตัว เราจะพบเห็นการใช้กำลังและความรุนแรงกับคนกลุ่มนี้บ่อย ๆ
ทำไมคนกลุ่มนี้จึงก่อให้เกิดปัญหา คำตอบคือ รัฐบาลให้ความช่วยเหลือพวกนี้มากเกินไปผ่านระบบสวัสดิการ ทำให้คนกลุ่มนี้หลายคนไม่ทำงานแต่รอเงินจากรัฐบาล และพวกเค้าเลือกที่จะไม่ทำงานเพื่อกินเงินสวัสดิการ ด้วยกระบวนการนี้ทำให้คนกลุ่มนี้มีพฤติกรรมที่ได้อะไรมาง่าย ๆ จนเคยตัว ดังนั้น เมื่อมีคนไปหยิบฉวยของจากร้านค้าฟรี ทำให้คนกลุ่มนี้ฉวยโอกาสออกมาทำตาม สิ่งที่ผมกลัวคือ บ้านเรากำลังมีการพัฒนาทางสังคมไปในทิศทางเดียวกันกับกลุ่ม Chav ในประเทศอังกฤษ แต่ที่ผมไม่รู้ก็คือว่า เมื่อไหร่ วิวัฒนาการของสังคมไทยจะไปถึงขั้นนั้น เมื่อเวลานั้นมาถึง ตัวใครตัวมันครับ
Siwarit Valley 2011 ©สงวนลิขสิทธิ์ เอกสารใน Blog นี้ ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์โดยมิได้รับอนุญาตอนุญาตให้ใช้เพื่อการศึกษาได้ โดยต้องใช้ตามต้นฉบับเดิมห้ามแก้ไข ดัดแปลง